Drop Down Post (เลือกอ่านบทความและโพสต์ Comment)

วันศุกร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2555

Audio Essentials สิ่งที่จำเป็นต้องรู้ในการแปลงไฟล์เพลง (1)


ในบทความก่อนหน้านี้ ผมได้แนะนำการแปลงออดิโอไฟล์ด้วยโปรแกรม Format Factory ท่านใดยังไม่ได้อ่าน เข้าไปอ่านได้ที่นี่

แปลงไฟล์เสียงด้วยโปรแกรม Format Factory

เพื่อให้เราสามารถแปลงไฟล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพตรงกับความต้องการของเรา จำเป็นต้องรู้พื้นฐานของแต่ละไฟล์เพลงก่อนว่ามีคุณสมบัติอะไรบ้าง ข้อดีข้อด้อยเป็นอย่างไร เปรียบได้กับการทำงาน เราจำเป็นต้องเรียนรู้และเข้าใจมันก่อน ทำไปมั่ว ๆเดี๋ยวเจ้านายได้ด่าเช็ด เงินเดือนก็ไม่ขึ้น โต้ตอบก็อาจโดนไล่ออก เสียทั้งขึ้นทั้งล่อง


1. ประเภทของไฟล์เพลง

ไฟล์เพลงหรือไฟล์เสียงที่นิยมและเป็นที่รู้จักแพร่หลายน่าจะมีดังต่อไปนี้ครับ


Wave

ไฟล์ Wave (เวฟ) ที่มีนามสกุล .wav เป็นไฟล์ข้อมูลคลื่นเสียงที่บันทึกจากเสียงอนาล็อกเป็นรูปแบบดิจิตอล เก็บเอาไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ คล้ายกับการบันทึกเทปแต่เป็นการบันทึกไว้ในดิสก์ของคอมพิวเตอร์แทน Wave เป็นรูปแบบไพล์พื้นฐานของระบบพีซี มีขนาดไฟล์ใหญ่ สามารถกำหนดคุณภาพเสียงได้หลากหลาย เช่น เสียงโมโนหรือสเตอริโอ มีระดับความละเอียดน้อยมาก ทำให้เราสามารถนำไฟล์เหล่านี้ไปประยุกต์ใช้งานต่างๆต่อได้อีก ไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งเสียง ผสมเสียง หรือ convert ไปเป็นไฟล์เสียงประเภทอื่นๆได้ (เมื่อทำงานร่วมกับ software)

 

CD Audio

เป็นแทร็กเสียงดิจิตอลที่รูป แบบเหมือนกับไฟล์ Wave บรรจุไว้ในแผ่นซีดีเพลงด้วยรูปแบบพิเศษเฉพาะ ถ้าใส่แผ่นซีดีเพลงเข้าไปในไดรฟ์ซีดีรอมแล้วเปิด My Computer คุณจะเห็นชื่อไฟล์ในแผ่นซีดีมีนามสกุลเป็น . cda เช่นไฟล์ track1.cda ซึ่งมันไม่ใช่ไฟล์ข้อมูลคอมพิวเตอร์อย่าง Wave หรือ MP3 คุณจึงไม่สามารถก๊อบปี้แทร็ก CD Audio เก็บไว้ในฮาร์ดิสก์ได้ ไฟล์ประเภทนี้มีความคมชัดของสัญญาณมาก เพราะไม่มีการบีบอัดข้อมูล เพียงเข้ารหัสในระบบ Linear PCM เป็นไฟล์ .cda ที่มักจะตั้งค่าการเก็บข้อมูลเสียงโดยการสุ่มและแปลงสัญญาณไว้ที่ 44,100 ครั้งต่อวินาที ปกติคอมพิวเตอร์จะไม่สามารถอ่านไฟล์นี้ได้โดยตรง ต้องเล่นผ่านอุปกรณ์อื่นๆ เช่น เครื่องเสียง , ซีดีรอม หรือ software บางชนิด

 

MP3


MP3 (นามสกุล .mp3) เป็นที่นิยมมากในหมู่นักฟังเพลงทั่วไปในปัจจุบัน เป็นไฟล์เสียงที่มีพื้นฐานจากไฟล์ Wave แต่มีขนาดเล็กกว่าประมาณ 8-10 เท่า เนื่องจากข้อมูลในไฟล์ถูกบับอัดให้เล็กลงแต่ยังคงคุณภาพไว้ใกล้เคียงต้นฉบับ ไฟล์ MP3 ได้รับความนิยมมากสำหรับการบันทึกเพลง ไฟล์ประเภทนี้ความยาว 4 นาที มีขนาดประมาณ 5MB สามารถก๊อบปี้เก็บไว้ในฮารด์ดิสก์ได้เหมือนไฟล์ข้อมูลข้อมูลปกติทั่วไป มีคุณภาพดีใช้ได้เลยทีเดียว (bitrate 128 Kbps) และเนื่องจากความเล็กของไฟล์ประเภทนี้ทำให้เป็นที่นิยมในการส่งไฟล์นี้ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตกันด้วย

 

WMA


WMA (Windows Media Audio) เป็นไฟล์เสียงดิจิตอลรูปแบบใหม่กว่า MP3 มีการบีบอัดดีกว่า ทำให้ไฟล์มีขนาดเล็กกว่า MP3 เป็นไฟล์เสียงที่ บ.ไมโครซอฟท์ คิดขึ้นมาให้ทำงานร่วมกับโปรแกรม Windows Media Player ของระบบวินโดว์ สามารถฟังเสียงผ่านระบบ streaming ได้ คือ ดาวน์โหลดข้อมูลไปด้วย พร้อมกับถอดรหัสเสียงให้ฟังไปพร้อมๆกันเลย โดยไม่ต้องรอให้ดาวน์โหลดครบ 100% ส่วนคุณภาพเสียงนั้นมีความละเอียดสูงไม่แพ้ mp3 128 Kbps เลย แต่จะมีขนาดเล็กกว่า mp3 ที่ความละเอียดเสียงพอๆกัน เพราะเข้ารหัสแบบ bitrate 64 Kbps (ครึ่งเดียว) ปัจจุบันเครื่องเสียงบ้านและรถยนต์ได้หันมารองรับไฟล์ระบบนี้มากขึ้นแล้ว

 

RA

(Real Audio – .ra) เป็นไฟล์เสียงสำหรับใช้กับโปรแกรม Real Player โดยเฉพาะ มีพื้นฐานมาจากไฟล์ Wave แต่ถูกบีบอัดให้เล็กลงด้วยเทคโนโลยีเฉพาะ  เน้นการทำงานแบบ Streaming สามารถ ฟังเสียงและดูภาพขณะกำลังดาวน์โหลดข้อมูลได้พร้อมๆกันเลย มีหลายความละเอียดให้เลือกหลายระดับ เป็นที่นิยมในหมู่นักดูหนังฟังเพลงในอินเตอร์เน็ตมาก

 

MIDI

(Musical Instrument Digital Interface) (อ่านว่า ?มิดี้?) ที่มีนามสกุล .mid เป็นไฟล์ข้อมูลดนตรีที่ถูกบันทึกหรือโปรแกรมเอาไว้ เช่น เสียงเครื่องดนตรีต่างๆ ตัวโน๊ต ความเร็วจังหวะ ฯลฯ สำหรับนำไปใช้กับอุปกรณ์ดนตรี เช่น ซาวนด์การ์ด หรือ เครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์เมื่อข้อมูลถูกส่งจากคอมพิวเตอร์เข้าสู่อุปกรณ์ ดนตรีจะทำให้ อุปกรณ์ดนตรีจะเล่นดนตรีตามข้อมูลในไฟล์ เหมือนกับคนอื่นมาเล่นดนตรีให้คุณฟังในวงการดนตรี MIDI คือลักษณะการต่อเชื่อมเครื่องดนตรีแบบดิจิตอล ใช้อ้างถึงความสามารถในการสื่อสารระหว่างเครื่องดนตรีผ่านทางพอร์ต MIDI (ช่องสำหรับเสียบสายสัญญาณ) โดยเครื่องดนตรีเครื่องหนึ่งส่งข้อมูลไปให้อีกเครื่องหนึ่ง เพื่อสั่งให้ทำงานหรือส่งเสียงตามที่ต้องการได้ ตัวอย่างเช่น คุณเชื่อมต่อกีตาร์ไฟฟ้ากับคีย์บอร์ดเข้าด้วยกัน เมื่อคุณดีดกีต้าร์สมมุติว่าเป็นโน๊ตเสียงโด คีย์บอร์ดก็จะส่งเสียงโด ออกมาพร้อมกันทันที เหมือนกับมีอีกคนมาช่วยเล่นคีย์บอร์ดให้คุณ

 

CD Audio (.cda)

เป็น ไฟล์เสียงที่บันทึกลงบนแผ่นซีดี ใช้เล่นกับเครื่องเสียงทั่วไป ไฟล์ประเภทนี้มีความคมชัดของสัญญาณมาก เพราะไม่มีการบีบอัดข้อมูล เพียงเข้ารหัสในระบบ Linear PCM เป็นไฟล์ .cda ที่มักจะตั้งค่าการเก็บข้อมูลเสียงโดยการสุ่มและแปลงสัญญาณไว้ที่ 44,100 ครั้งต่อวินาที ปกติคอมพิวเตอร์จะไม่สามารถอ่านไฟล์นี้ได้โดยตรง ต้องเล่นผ่านอุปกรณ์อื่นๆ เช่น เครื่องเสียง , ซีดีรอม หรือ software บางชนิด

 

Audio Streaming Format

(.asf) เป็นไฟล์เสียงหนึ่งที่มีรูปแบบ Streaming ที่เน้นส่งข้อมูลเสียงแบบ real time ใช้กันมากในการฟังวิทยุออนไลน์บนอินเตอร์เน็ต

 

Audio Interchange File Format

(.aif , .aiff) เป็นไฟล์ลักษณะคล้ายไฟล์ Wave แต่ใช้สำหรับเครื่องMacintoshACC (.acc) เป็นไฟล์เสียงที่มีคุณภาพสูงมาก สุ่มความถี่ได้ถึง 96 kHz รองรับอัตราการเล่นไฟล์สูงถึง 576 Kbps สามารถแยกเสียงได้ถึงระบบ 5.1ช่อง เทียบเท่า Dolby Digital หรือ AC-3
  

ข้อมูลไฟล์เพลงข้างบนนี้ผมคัดลอกผสมกัน มาจากเว็บ 2 เว็บตามลิงค์ข้างล่าง ขอขอบพระคุณผู้เขียนข้อมูลดังกล่าวด้วยครับ
 
ไฟล์ดนตรีประเภทต่างๆ

ชนิดของไฟล์เสียงที่ควรทราบ | คอมพิวเตอร์ดนตรี


นอกเหนือจากไฟล์เพลงที่คัดมาให้ทราบ ยังมีไฟล์เสียงประเภทต่าง ๆอีกหลายอย่าง ผมลองค้นหาข้อมูลที่เป็นภาษาไทยแล้วยังมีข้อมูลที่น้อยมากเมื่อเทียบกับเว็บนอก ผมจะแนะนำให้ที่่หนึ่งค่อนข้างดี สามารถรู้ความหมายของนามสกุลไฟล์ประเภทต่าง เพียงแต่พิมพ์ในช่องค้นหา แล้วคลิกดูรายละเอียดได้ พร้อมทั้งบอกหมดว่าไฟล์ประเภทนี้เป็นที่นิยมแพร่หลายมากน้อยเพียงใด สามารถเปิดได้โปรแกรมอะไร (Add to favorite เลยนะครับ เจอไฟล์อะไรที่เราไม่รู้ search หาได้ตลอดปี ไม่เว้นวันหยุดราชการ)



Audio File Formats




เราได้รู้แล้วว่าชนิดของไฟล์เพลงที่ฮิต ๆไปแล้ว ตอนหน้าผมจะแนะนำถึงคุณสมบัติหลักที่สำคัญของไฟล์เพลงอีก 2 ประการที่เหลือ ถ้าไม่ทราบแล้วเตรียมร้องเพลง “ขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึก” ของธานินทร์ได้เลยครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น