มีเรื่องเล่าที่น่าใคร่ครวญอยู่เรื่องหนึ่ง....
กาลครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้
(..เอ่อ..ที่ว่าไม่นานก็เพราะผมเพิ่งอ่านเจออ่ะครับ)
มีอาจารย์สอนศาสนาอยู่คนหนึ่งซึ่งมีลูกชายกำลังซนอายุซัก 10กว่าขวบ
ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวเอะอะในขณะที่ท่านกำลังเตรียมร่างบทเทศนาอยู่อย่างมิยอมหยุดหย่อน
จึงนึกหาวิธีที่จะทำให้เจ้าลูกชายเงียบเสียง
มองไปมาก็เจอนิตยสารเก่าอยู่เล่มหนึ่งมีรูปแผนที่โลกแทรกอยู่
ท่านจึงหยิบแผ่นแผนที่มาฉีกเป็นชิ้นเล็ก ๆทำให้คล้าย ๆจิ๊กซอ แล้วพูดขึ้นว่า “บั่กหำน่อย...ถ้าเจ้าเอาเศษกระดาษรูปแผนที่โลกแผ่นนี้มาประกอบกันได้อย่างเดิม
พ่อสิจะให้ตังค์เจ้าหนึ่งร้อย”
(ผมสมมุติว่าอาจารย์เป็นคนอีสานก็แล้วกันขอรับ)
ว่าแล้วอาจารย์ผู้พ่อก็ร่างบทเทศนาต่อไป
พลางดีใจว่าทีนี้ลูกคงต้องใช้เวลานานกว่าจะต่อแผนที่เสร็จ ชั่วเวลาไม่ถึง 10 นาที
เจ้าลูกชายก็เดินเข้ามาพร้อมแผ่นกระดาษแผนที่โลกที่ต่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ศาสนจารย์รู้สึกประหลาดใจมาก..
“ห่วย...เจ้าสิเฮ็ดได้จั๋งได่ว่ะ...”
“ให้มันรู้บ้างว่าไผคือไผ” ลูกชายตอบ “ที่ข่อยเฮ็ดได้เร็วขนาด
ก็เพราะข่อยพบว่าด้านหลังของแผนที่เป็นรูปคนยืนอยู่ ก็เลยเอาเศษกระดาษทั้งหมดพลิกกลับด้านต่อเป็นรูปคน
เมื่อข่อยต่อรูปคนได้ถูกต้อง พอพลิกมาเป็นด้านหน้า
ข่อยก็ได้แผนที่โลกที่ต่อเสร็จสมบูรณ์แล้ว”
“สุโค่ย...(สุดยอด)
ท่านพ่ออุทานเป็นภาษาญี่ปุ่น พลางควักเงินให้ตามสัญญา “บั่กหำน้อย ลูกพ่อ..เจ้าได้เตรียมบทเทศน์ให้พ่อสำหรับมื้อหน้าแล้ว ถ้าคน
ๆหนึ่งถูกต้อง โลกของเขาก็ถูกต้อง การเปลี่ยนแปลงโลกเป็นไปได้ยาก แต่เปลี่ยนตนเองให้เข้ากับสภาพแวดล้อม ง่ายกว่า”
แง่คิดของนิทานข้างบนนี้ก็คือ ถ้าเราคิดจะเปลี่ยนแปลงโลกของเรา
ก็ควรต้องเปลี่ยนแปลงตนเองก่อน
เฉกเช่นทัศนคติที่มีต่อสภาพแวดล้อมและต่อชีวิตของเรา ถ้าเป็นแบบกระตือรือร้น
เปี่ยมล้นไปด้วยพลังชีวิต ชีวิตก็เปี่ยมสุข ถ้าท่าทีเป็นแบบรัดทดหดหู่
ชีวิตก็กลัดกลุ้มเป็นทุกข์
ทั้งหมดนี้ผมคัดและเรียบเรียงเสริมแต่งจากหนังสือ
“จงเป็นนายแห่งตน” ซึ่งคุณอธิคม สวัสดิญาณ
แปลและเรียบเรียงจากต้นฉบับภาษาจีนของหลี่เจี๋ยครับผม
ปล. จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี สำหรับท่านที่ไม่ทราบว่าคุณจอร์จคือใครครับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น